Popular Posts

Wednesday, June 17, 2015

HOW TO ทาครีมให้ถูกวิธีและได้ผล

HOW TO ทาครีมให้ถูกวิธีและได้ผล -- ครั้งนี้ไม่ได้ใช้รูปตัวเองนะครับเดี๋ยวไม่กล้าเปิดดูกัน เลยขอยืมภาพเค้ามา...

จะทำอย่างไร? ให้ผิวหน้าคุณยังดูสดใสเปล่งปลั่ง ดูอ่อนเยาว์ ดูสุขภาพดี

บอกเลยนะครับว่านอกจาก ทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายเป็นประจำ และทำจิตใจให้ร่าเริงแจ่มใสแล้ว การบำรุงผิวก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยทีเดียว



สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง นอกจากการเลือก ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ดี และเหมาะกับสภาพผิวของเราแล้วก็คือ "การทาครีม" นั่นเอง เชื่อว่าถ้าได้ทดลองทำตามขั้นตอนนี้แล้ว รับรองว่าจะช่วยให้ผิวของคุณดูสวยเนียนใสแน่นอน



1. ล้างหน้าให้สะอาด แล้วใช้ผ้าขนหนูที่สะอาด หรือกระดาษทิชชู่ ซับหน้า >> ย้ำ!! ซับหน้านะครับ อย่าเช็ดหน้าไปมา เพราะจะทำให้เกิดรอยเหี่ยวย่นก่อนวัยอันควรได้

2. ใช้ปริมาณครีมให้พอเหมาะ เพราะถ้าใช้น้อยเกินไปอาจไม่ได้ผล แต่ถ้ามากเกินไปอาจทำให้ผิวหน้ามัน แถมยังเปลืองอีกด้วย >> โดยส่วนตัว ผมใช้ประมาณ 1ข้อนิ้วนาง <<

3. แต้มครีมลงบนผิวหน้า 5 จุด หน้าผาก จมูก แก้ม2ข้าง และคาง โดยจะใช้เยอะหน่อยบริเวณ แก้มและหน้าผาก เพราะ พื้นที่กว้างกว่าจมูกและคาง

4. ใช้นิ้วกลางและนิ้วนาง เกลี่ยเบาๆ เริ่มจาก บริเวณที่กว้างสุดก่อน และทาจากล่างขึ้นบน และแท็บเบาๆเป็นการนวดให้เนื้อครีมซึมลงสู่ผิว เน้นอีกครั้งการลงน้ำหนักนิ้วควรให้เบาที่สุด เพราะผิวหน้าเรานั้นแสนจะบอบบาง ถึงบางครั้งจะโดนด่าว่าหน้าหนาบ้างก็ตาม ซึ่งถ้าลงแรงเกินไปอาจก่อให้เกิดริ้วรอยได้ครัช!!!

5. สุดท้าย ก็เป็นรอบดวงตา ใช้ อายครีม ประมาณ 1เมล็ดถั่วเขียว โดยใช้นิ้วนางเพียงนิ้ว (นิ้วนางเป็นนิ้วที่ลงน้ำหนักเบาที่สุด -- มีใครสักสนได้กล่าวไว้ ซึ่งอยากเห็นหน้าคนที่กล่าวไว้เหมือนกัน เค้าเปรียบเสมือนเทพเจ้าที่มาแนะทางสว่างให้ชาวเรา) เป็นอันเสร็จพิธี

แล้วก็จะดูดีแบบนี้ อิอิ


หมายเหตุ: หากมีหลายตัวให้เรียงจากตัวที่สามารถซึบเข้าสู่ผิวได้ไวก่อน:
โทนเนอร์ > เอสเซนส์ หรือ เซรั่ม > เจล หรือ ครีม


ขอบคุณ
ที่มาของรูปภาพ: RESINE



Tuesday, June 9, 2015

ฮือฮา ชาวเน็ตแห่แชร์ สวย หล่อ ด้วยเลือด

สวัสดีครับ วันนี้จะมาพูดเรื่อง Dragon's Blood {ดราก้อน บลัด} หลายคนอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้าง และบางคนก็อาจจะงงๆ สงสัยว่าเลือดมังการมาจากไหนแล้วดีต่อผิวของเรายังไง ก็มาทำความรู้จักกับเจ้า เลือดมังกร กันเลยแล้วกัน 
Dragon's Blood, Peruvian Amazon. Photo by: Zoe Helene © 2010 ll edited by robinn85.blogspot.com

FAMILY: Euphorbiaceae

GENUS: Croton 

SPECIES: Croton lechleri sp.

SYNONYMS: Draco de Croton 

COMMON NAME(S): Sangre de Drago, Sangre de Grado, Sangre de Dragón, Ian Huaqui, Pucure, Chojilla, Rucurana, Shamborico

SCIENTIFIC NAME(S)Croton lechleri Muell.-Arg. Family: Euphorbiaceae (spurges)

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว....ได้มีผู้ค้นพบต้นไม้ทรงแปลกประหลาด ที่มีสรรพคุณเวอร์วังอลังการมาก นั่นก็คือ "ต้นเลือดมังกร" ได้ถูกบันทึกครั้งแรกใน ปี ค.ศ. 1600 โดยชาวสเปนผู้พิชิตเปรู ได้เรียนรู้จากชนพื้นเมืองว่ายางไม้จากต้นเลือดมังกร มีสรรพคุณในการช่วยสมานแผลให้หายเร็วขึ้นได้อย่างรวดเร็ว และในเวลาต่อมาก็ได้มีการค้นพบอีกว่า ยางไม้จากต้นเลือดมังกร นั้นสามารถนำมาใช้รักษา และมีส่วนช่วยในการฟื้นฟูสภาพผิวได้อีกด้วย


เมื่อกรีดลำต้น หรือปลอกกิ่งของต้นเลือดมังกรก็จะเห็นว่ามีน้ำยางไหลออกมาเป็นสีแดงสดเหมือนเลือด นับว่าเป็นคุณค่าแห่งความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของยางไม้สีแดงที่ชนชาวอินคา หรือชนพื้นเมืองชาวเปรู และคนทั่วทั้งทวีปอเมริกาใต้ค้นพบ และนำมาใช้ในการรักษาฟื้นฟู ดูแลผิวพรรณนานัปการ


ด้วยคุณสมบัติอันโดดเด่นทำให้ ต้นเลือดมังกร เป็นที่รู้จักและถูกใช้กันอย่างแพร่หลาย รวมถึงชาวเอเชีย และชาวไทยในวันนี้ 

ปัจจุบันได้ถูกนำมาสกัดมาเป็นส่วนผสมหลักในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เนื่องจากมีคุณสมบัติอันเปี่ยมประสิทธิภาพโดดเด่นในการ...
- ช่วยชะลอและลดเลือนริ้วรอย
- ช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ รังสียูวี และมลภาวะที่เป็นพิษ
- ช่วยฟื้นฟูผิวที่ถูกทำลาย 
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวเรียบเนียน 
- ช่วยกระชับรูขุมขน
- ช่วยลดรอยแดง จุดด่างดำ บนใบหน้า
- ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิว

เมื่อได้ใช้เป็นประจำก็จะสัมผัสได้ว่า ริ้วรอยลดเลือน ผิวเรียบเนียนกระชับ เปล่งปลั่งสดใสดูสุขภาพดี

บทความเกี่ยวกับ Dragon's Blood 

Dragons Blood Sangre De Drago (Peru)

Dragon’s blood: Botany, chemistry and therapeutic uses

Dragon's Blood

เลือดมังกรสรรพคุณดี


*สารสกัดจากต้นเลือดมังกรในครีมเรซิเน่เป็น 1 ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเกรดพรีเมี่ยมที่มีอยู่ในประเทศไทย ซึ่งมีสารสกัดจากยางของต้นเลือดมังกรและเป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อผิวของคนไทยโดยเฉพาะ


Monday, June 1, 2015

โสดจีบได้ ทำกับข้าวเป็น - ตอนต้มข่าไก่


โสดจีบได้ ทำกับข้าวเป็น - ตอนต้มข่าไก่

#FOOD #CHEF #EASYCOOKING #LAB

FOOD LAB by CHEF BINN

สวัสดีครับ วันนี้บินจะมาทดลองทำ “ต้มข่าไก่ใส่มะพร้าวอ่อน” ดูนะครัช ^__^


ก่อนอื่นเรามาดูส่วนผสมกันก่อนนะครับ



ส่วนผสมง่ายๆ ไม่มีอะไรมาก ตามนี้เลยครับ

ข่า ประมาณ 5 แว่น
หัวกะทิ 500 ml.
เนื้อสัตว์ อันนี้แล้วแต่ชอบนะครับ ส่วนวันนี้บินใช้ อกไก่ครับ
เนื้อมะพร้าวอ่อน
เห็ด แล้วแต่ชอบ (บินใช้ เห็ดชิเมจิ และเห็ดเข็มทองครับ)
น้ำสต๊อก 250 ml.
หอมแดง 5 หัว
ใบมะกรูด 5 ใบ
พริกขี้หนู 5 เม็ด
รากผักชี 3 ต้น
ตะไคร้ 3 ต้น
พริกแห้ง 3 เม็ด
น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือ-น้ำตาล นิดหน่อย ปรุงรสตามชอบ
น้ำมันน้ำพริกเผา (อันนี้ ลืมถ่ายตอนใส่เข้าไป T_T)

ลิสส่วนผสมออกมา ก็เยอะเหมือนกันนะเนี๊ย!! แต่วิธีทำง่ายมากกกกกก

มาดูวิธีทำกันเลย

อันดับแรกก็ต้องเตรียมส่วยผสมก่อนนะครับ ต้มน้ำสต๊อก* และนำเนื้อไก่ไปลวก แล้วพักไว้
(น้ำสต๊อกบินเอา ข่า ตะไคร้ หอมแดง ลงไปต้มด้วยนะครับ) 

จากนั้น ก็ตั้งไฟอ่อนๆ เทหัวกะทิลงไป



พอกะทิเริ่มร้อน ก็ใส่ทุกสิ่งลงไปเล๊ยยยย...
ทุกอย่างก่อนใส่ลงไป บินก็จะ บุบุ ทุบทุบ ก่อนนะครับ เพราะบินรู้สึกว่ามันทำให้เข้มข้นดี ทั้ง ข่า รากผักชี ตะไคร้ หอมแดง พริกขี้หนู  และใบมะกรูด



หลังจากนั้น...พอเริ่มเดือดเบาๆ บินก็จะเพิ่มน้ำสต๊อกเข้าไป และปรุงรสด้วย มะขามเปียก น้ำปลา เกลือ+น้ำตาลนิดหน่อย

เมื่อได้รสชาติเค็มหวานที่ชอบแล้ว ก็ใส่เนื้อมะพร้าวอ่อน และไก่ที่ลวกไว้แล้วลงไปนะครับ



ปิดไฟ แล้วเติมน้ำมะนาวลงไป พักไว้
จากนั้น เอาเห็ดที่เตรีมไว้มาผัด กับ น้ำมันนิดหน่อย + เกลือ (ใช้ไฟแรง)


สุดท้ายก็จัดใสจาน โดยใส่เห็ดลงไป 
ตามด้วยต้มข้าที่พักไว้ ปิดท้ายโดยใส่พริกแห้ง และ น้ำมันน้ำพริกเผา 
แค่นี้ก็เสร็จแล้วครับ “ต้มข่าไก่ ใส่มะพร้าวอ่อน แบบง่ายๆ”

จะทานกับข้าวสวยร้อนๆ หรือจะต้มเส้นสปาเก็ตตี้ พาสต้า แล้วมาผัดกับต้มข่าก็ได้ แต่ต้องลดปริมาณน้ำสต๊อกลงหน่อยจะได้เจ้มจ้น ข้นคลั๊กๆ


ทานให้อร่อยนะคร้าบบบบบบบ ทำเสร็จก็ส่งมาให้ชิมมั่งเน้อออออ

(ตอนถ่าย ลืมใส่ น้ำมันน้ำพริกเผา พริกแห้ง และผักชี T_T ดูจืดๆไปเลย)

อ่านโพสต์อื่นๆ คลิก